
เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศฟีเจอร์ใหม่ทรงพลังชุดใหญ่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การพัฒนา และปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในระบบนิเวศของ Mendix ตั้งแต่ประสบการณ์ที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นใน Studio Pro ด้วยระบบ History แบบไม่บล็อกงาน (non-blocking) และขนาดหน้าต่าง dialog ที่ใหญ่ขึ้น ไปจนถึงความสามารถเพิ่มประสิทธิภาพอย่างการแปลง widget แบบกลุ่ม (batch widget conversion), เทมเพลต overview แบบปรับแต่งได้, และการเลือกข้อมูลแบบ “Select All” ใน Data Grid 2 — รีลีสนี้เน้นทั้งความเร็วและความยืดหยุ่นเป็นหลัก
เรายังเปิดตัว Dynamic Case Management ในสถานะ private beta! พร้อมการ preview ที่เร็วขึ้น และประสบการณ์ที่ดีขึ้นกับ External Database Connector, การอัปเดต Event Broker ที่ราบรื่นกว่าเดิม, การนำเข้า OpenAPI ที่เสถียรและทันสมัยขึ้น และการรองรับ optional parameters ใน External OData Actions
ขั้นตอนการอัปโหลดใน Marketplace ตอนนี้รองรับการ preview, มี owners ได้หลายคน, เชื่อมโยงเอกสารประกอบได้, และมีระบบตรวจสอบช่องโหว่อัตโนมัติ ทำให้การเผยแพร่แอปง่ายและสบายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้เรายังยกระดับครั้งใหญ่ด้วย Siemens Capital Connector และมอบจุดเริ่มต้นให้คุณด้วย Altair RapidMiner Showcase App สำหรับการพัฒนาแอปอัจฉริยะ
มาพัฒนาสิ่งที่ดียิ่งกว่า เร็วยิ่งกว่า และฉลาดยิ่งกว่า—ไปด้วยกัน!
Studio Pro
History Pane Beta: Non-blocking and searchable!
เรารู้สึกยินดีที่จะประกาศ Public Beta ของ History Pane แบบใหม่ ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งานได้ในเมนู New Features ภายใต้หน้าต่าง Preferences เมื่อเปิดใช้งานแล้ว มันจะมาแทนที่หน้าต่าง History แบบป๊อปอัปเดิมโดยอัตโนมัติ
แผงแบบไม่บล็อกการทำงาน (non-blocking pane) นี้ช่วยให้คุณไม่เสียบริบทระหว่างการทำงาน สามารถดูประวัติ (history) ไปพร้อมกับเปิดเอกสารที่มีการเปลี่ยนแปลงได้พร้อมกัน อีกทั้งยังมีระบบค้นหาที่เร็วมาก เพิ่มเข้ามาเพื่อให้คุณค้นหาข้อความ commit, ผู้แก้ไข (author), และ revision hash ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เรายังแสดง remote revisions ซึ่งคือการแสดงงานที่เพื่อนร่วมทีม push ขึ้นเซิร์ฟเวอร์ไว้แล้ว แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้ดึงลงมาที่เครื่องตัวเอง ทำให้การติดตามงานบนเซิร์ฟเวอร์ทำได้ง่ายขึ้นมาก

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะมุ่งสู่การปล่อยฟีเจอร์นี้เป็น General Availability (GA) และมีแผนจะเพิ่มตัวกรองตามวันที่ (date filter) และคำสั่งอำนวยความสะดวกใน context menu เช่น การสร้าง branch อย่างรวดเร็ว มองไปไกลกว่านั้น roadmap ของเรายังรวมถึงความสามารถในการ เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงย้อนหลัง (historical diffing) เพื่อให้คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงในเอกสารจริง เช่น การแก้ไข activity ใน microflow หรือ entity ใน domain model ได้อย่างชัดเจน
หน้าต่าง Dialog ที่ใหญ่ขึ้น
เราได้เพิ่มขนาดของ dialog ที่มีการใช้ expressions เพื่อให้สามารถอ่านและกรอก expression ที่ยาว ๆ ได้สะดวกขึ้น ซึ่งช่วยให้การทำงานกับแอปที่ซับซ้อนมากขึ้นเป็นไปได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ เมื่อคุณปรับขนาด dialog แล้ว ระบบจะจำขนาดที่คุณตั้งไว้ ทำให้การเปิดกลับมาแก้ไขข้อมูลภายในในครั้งถัดไปสะดวกขึ้นมาก
Custom Document Types ใน Extensibility
ตอนนี้สามารถสร้าง Custom Document Type ได้ผ่าน web extensibility framework แล้ว ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนา extension สามารถบันทึกข้อมูลในรูปแบบ definition ของตนเอง เพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำในกรณีต่าง ๆ เช่น การเก็บข้อมูล integration definitions, การกำหนด mapping เฉพาะทาง หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่ต้องการเก็บไว้ใช้ภายหลัง
แปลง Dojo Widgets เป็น React แบบกลุ่ม (Batch Conversion)
การปรับแอป Mendix ให้รองรับ React ตอนนี้ง่ายขึ้นสำหรับ widget ที่ใช้บ่อยหลายตัว จากเดิมที่ต้องแปลงทีละ widget เช่น Data Grid, Image, หรือ Selector ตอนนี้คุณสามารถแปลง Dojo widgets เหล่านี้เป็นเวอร์ชัน React ได้แบบ “ยกชุด” ในครั้งเดียว
หน้าต่าง batch conversion ใหม่ช่วยให้คุณเลือก module ที่ต้องการ migrate และระบบจะทำการแปลงอัตโนมัติสำหรับ widget ต่อไปนี้ (เฉพาะกรณีที่สามารถแปลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่สูญเสีย configuration):
- Data Grid
- Dynamic Image
- Static Image
- Drop Down
- Reference Selector
- Reference Set Selector
- Input Reference Set Selector
แม้ว่าคุณยังต้องแปลง widget อื่น ๆ ด้วยมือ แต่ฟีเจอร์นี้ช่วยลดงานซ้ำ ๆ และประหยัดเวลามากสำหรับ component ที่ถูกใช้งานบ่อยที่สุดในโปรเจกต์ Mendix

สร้าง Overview Page ด้วยเทมเพลต
การสร้าง overview page จาก entity เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการทำหน้าจอสำหรับงานแบบ administration โดยระบบจะสร้างหน้าแสดงข้อมูลและแบบฟอร์มให้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม หน้าเหล่านี้มักมีดีไซน์มาตรฐานที่อาจไม่ตรงกับสไตล์ของแอปของคุณ
ตอนนี้ คุณสามารถเลือก custom template เพื่อใช้ในการสร้าง overview pages ได้ ทำให้หน้ารายการและฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นสอดคล้องกับ design system ของคุณตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขหน้าที่สร้างขึ้นทีละหน้าเพื่อให้เข้ากับแบรนด์ของคุณอีกต่อไป
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณรักษาความสม่ำเสมอด้าน UI ทั่วทั้งแอป พร้อมยังคงความรวดเร็วของการสร้างหน้าแบบอัตโนมัติไว้อย่างครบถ้วน

Data Widgets – เลือกทั้งหมดได้จริงแบบข้ามทุกหน้า (Select All Across All Pages)
ตอนนี้ Data Grid 2 รองรับการเลือกข้อมูลแบบ “Select All” ที่ทำงานกับ ทั้งชุดข้อมูลทั้งหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะรายการในหน้าปัจจุบันอีกต่อไป
เมื่อคุณกดติ๊กที่ช่องทำเครื่องหมายมุมซ้ายบนของ Data Grid 2 ระบบจะเลือกทุกแถวในหน้าปัจจุบันเหมือนเดิม แต่จะมี แบนเนอร์แจ้งเตือน เพิ่มขึ้นมาเพื่อให้คุณเลือก “ข้อมูลทั้งหมดในทุกหน้า” ได้ เหมาะมากสำหรับการทำ batch action กับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่ผ่านการกรองแล้ว (filtered datasets)
คุณสามารถส่งข้อมูลที่ถูกเลือกทั้งหมดนี้ไปยัง nanoflow หรือ microflow เพื่อทำ bulk operation ต่าง ๆ ได้ทันที ทำให้การจัดการข้อมูลจำนวนมากเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้นมาก


แปลให้ครับ:
เสริมความปลอดภัยของเซสชันด้วย Absolute Session Timeout
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งานถือเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยปกติ Mendix มีค่าตั้งต้นของการหมดอายุเซสชัน (session timeout) อยู่ที่ 10 นาทีเมื่อไม่มีการใช้งาน อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับองค์กรที่มีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเข้มงวด
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ยังคงใช้งานระบบอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซสชันสามารถอยู่ได้นานไม่จำกัด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หากเซสชันถูกขโมยหรือถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะในองค์กรที่อยู่ภายใต้กฎระเบียบเข้มงวดหรือทำงานกับข้อมูลที่เป็นความลับ ความเสี่ยงนี้ถือว่าสำคัญมาก
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราขอแนะนำการตั้งค่า runtime ใหม่: AbsoluteSessionTimeout ฟีเจอร์นี้ช่วยให้นักพัฒนากำหนด “อายุสูงสุดของเซสชัน” ได้ ไม่ว่าผู้ใช้จะยังคงใช้งานอยู่หรือไม่ก็ตาม เมื่อเซสชันถึงเวลาที่กำหนด ระบบจะหมดอายุโดยอัตโนมัติ ช่วยป้องกันไม่ให้มีเซสชันใดที่อยู่ต่อเนื่องนานเกินไป
การปรับปรุงนี้ ไม่แทนที่ timeout แบบไม่มีการใช้งาน (inactivity timeout) ที่มีอยู่เดิม แต่เป็นการเพิ่ม “กรอบเวลาสูงสุด” สำหรับอายุเซสชัน เพื่อให้องค์กรมีความยืดหยุ่นและการควบคุมการจัดการเซสชันที่ดีขึ้น และสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยของการ deploy แอปพลิเคชัน รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานสามารถดูได้จากเอกสาร
Dynamic Case Management add-on (private beta)
Dynamic Case Management คือส่วนเสริม (add-on) สำหรับระบบ Case Management บนแพลตฟอร์ม Mendix ซึ่งพัฒนาโดย CaseFabric สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า Case Management:
มันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสถานการณ์ที่กระบวนการ ไม่มีโครงสร้างชัดเจน (unstructured) หรือ มีโครงสร้างเพียงบางส่วน (semi-structured) และเป็นสภาพแวดล้อมที่ เคสเกิดข้อยกเว้นเป็นเรื่องปกติ มากกว่าจะเดินตามลำดับขั้นตอนที่แน่นอนเหมือน workflow แบบตายตัว.

ด้วยส่วนเสริม (add-on) ใหม่ตัวนี้ คุณสามารถออกแบบ case model ได้โดยตรงจาก Studio Pro โมดูล DCM ได้ถูกผสานรวม (integrated) อย่างลึกซึ้งกับ Domain-Specific Languages (DSLs) ของ Mendix Studio Pro เพื่อมอบแนวทางแบบครบวงจรสำหรับงาน Case Management
มันใช้ประโยชน์จาก:
- Mendix Pages สำหรับกำหนด HumanTasks (การออกแบบ UI)
- Mendix Microflows สำหรับ Process Tasks (การออกแบบลอจิก)
- Mendix Domain Model สำหรับกำหนดโครงสร้างของ case file โดยใช้ Entity ในแอปของคุณ (การออกแบบข้อมูล)
การผสานรวมนี้ช่วยให้การจัดการข้อมูลของเคส (case data) มีความสอดคล้อง เป็นระเบียบ และยังรองรับการโต้ตอบแบบ dynamic ได้ภายในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยของ Mendix
นอกจากโมดูลตัว add-on แล้ว เรายังเปิดตัว Dynamic Case Management Commons module ซึ่งเป็นโมดูลเฉพาะที่มีเทมเพลตหน้าเพจ หน้าพร้อมใช้ overview และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่กำหนดค่ามาแล้ว ช่วยประหยัดเวลาในช่วงพัฒนา และสามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงจาก Mendix Marketplace
External Database Connector
สำหรับผู้ที่ทำงานกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ซึ่งมีตาราง (tables), มุมมอง (views) และ stored procedures จำนวนหลายพันรายการ ตอนนี้คุณจะพบว่า การดึง schema ทำได้เร็วขึ้นมาก ตัว connector ใหม่ดึงข้อมูล catalog ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การแสดง object tree ของฐานข้อมูลเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ เพื่อให้ขั้นตอนการทำงานลื่นไหลกว่าเดิม คุณยังสามารถ ลากและวาง (drag & drop) ชื่อตารางหรือ view จากหน้าต่างแสดงรายการเหล่านี้ ไปยัง SQL editor ได้โดยตรง ช่วยเร่งการเขียน query ให้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
Event Broker
ตอนนี้คุณสามารถอัปเดต bridge ที่มีอยู่เดิมด้วย event types ใหม่ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องสร้าง bridge ใหม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเพิ่ม event type ใหม่ได้ทันที ในขณะที่แอปพลิเคชันสำคัญของคุณยังคงออนไลน์และส่งต่อข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่สะดุด
ตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่ใช้ HTTP bridge ในการรวบรวมข้อมูล IoT จากพื้นที่การผลิต สามารถเพิ่มประเภทข้อมูลจากเซนเซอร์ใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องหยุดระบบแม้แต่วินาทีเดียว
ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำงานของคุณคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น!
Consumed REST Service: รองรับ OpenAPI v3.1.0, คำเตือนแบบไม่บล็อกงาน และการจัดการพารามิเตอร์ที่ดีขึ้น
เรากำลังปล่อยฟีเจอร์ใหม่เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน Consumed REST Services โดยมีไฮไลต์สำคัญดังนี้:
- ตอนนี้ Studio Pro รองรับการนำเข้า OpenAPI contracts เวอร์ชันสูงสุดถึง 3.1.0 ทำให้คุณสามารถใช้สัญญา API ตามสเปกล่าสุดได้
- เพิ่ม non-blocking warnings สำหรับสัญญา OpenAPI ที่มีข้อผิดพลาดด้านโครงสร้างหรือ semantics เล็กน้อย → หมายความว่า คุณสามารถนำเข้าและทำงานนั้นได้ทันที แม้ว่าจะยังมีบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์
เรายังปรับปรุงเล็ก ๆ แต่มากประโยชน์ในส่วนของการจัดการพารามิเตอร์:
- ตอนนี้สามารถใช้ อักขระพิเศษ (special characters) ใน parameters และ query parameters ได้แล้ว → ช่วยให้ใช้งานกรณีการเชื่อมต่อขั้นสูงได้ เช่น
- การใช้ deepObject-style query parameters
- การเรียก REST สำหรับ OData queries
Consumed OData Service: รองรับ External Actions ที่มี optional parameters
สำหรับผู้ที่ใช้ Consumed OData Services ตอนนี้คุณสามารถเรียกใช้ External Actions ที่มี optional parameters ได้แล้ว โดย Studio Pro จะเชื่อค่า “optional” ตามที่กำหนดใน metadata ของ OData service
- หากไม่กรอกค่า optional parameters ระบบจะ ไม่สร้าง consistency error
- ทำให้การทำงานของ Consumed OData Services สอดคล้องกับความตั้งใจมากขึ้น
- และช่วยให้การผสานรวม (integration) มีความสม่ำเสมอและยืดหยุ่นกว่าเดิม
Marketplace: ปรับปรุงขั้นตอนการอัปโหลด component และยกระดับความปลอดภัย
ขั้นตอนการอัปโหลด component ใน Mendix Marketplace ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมโครงสร้างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้พัฒนาเผยแพร่ component ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น กระบวนการใหม่แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน พร้อมระบบ preview ให้ตรวจสอบหน้ารายการก่อนเผยแพร่จริง
ผู้พัฒนาตอนนี้สามารถทำได้ดังนี้:
- ดูตัวอย่าง (Preview) รายการก่อนเผยแพร่
- กำหนดเจ้าของหลายคน (multiple developers) ให้กับ component
- เพิ่ม ลิงก์ทรัพยากร (resource links) และเอกสารประกอบหลายรายการ เพื่อช่วยผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4 ขั้นตอนใหม่มีดังนี้:
- Uploading the component
- อัปโหลดไฟล์หรือเชื่อมกับ GitHub repository
- ระบุข้อมูลพื้นฐาน
- ไม่จำเป็นต้องเริ่มที่เวอร์ชัน 1.0.0 อีกต่อไปเวลาเพิ่ม component ใหม่
- Providing general information
- เพิ่มคำอธิบายแบบละเอียด
- เพิ่ม tagline สั้น ๆ ที่จะแสดงบนการ์ดของ marketplace
- Defining license and support
- เลือกประเภท license
- ระบุช่องทางติดต่อสำหรับการซัพพอร์ตหรือเว็บไซต์
- กำหนด developer หลายคนเป็นเจ้าของ component ได้
- Adding media and documentation
- อัปโหลด screenshot ได้สูงสุด 10 ภาพ
- อัปโหลดวิดีโอ 1 รายการ
- เพิ่มเอกสารประกอบ และลิงก์สนับสนุนได้สูงสุด 5 รายการ
ก่อนเผยแพร่ ผู้พัฒนาสามารถตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดผ่าน โหมด Preview เพื่อความถูกต้องของข้อมูลและรูปภาพ
การสแกนความปลอดภัยอัตโนมัติด้วย QSM
ทุก component ที่ส่งขึ้น Public Marketplace จะถูกสแกนช่องโหว่อัตโนมัติด้วย QSM:
- หาก ผ่านการสแกน จะได้รับการอนุมัติและเผยแพร่โดยอัตโนมัติ
- หากพบปัญหา จะมีการตรวจสอบแบบ manual ภายใน 5 วัน
การอัปเดตนี้ช่วยยกระดับทั้งกระบวนการของผู้พัฒนาและความน่าเชื่อถือของ Marketplace สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับทุกคนที่แชร์และใช้งาน component
ฟีเจอร์ที่ถูกขอมาก: Release notes ในอีเมลแจ้งเตือน
ฟีเจอร์ยอดฮิตจาก idea forum พร้อมใช้งานแล้ว! เมื่อ component ที่คุณกดติดตาม (subscribed) มีการอัปเดต ตอนนี้ release notes จะถูกใส่ไว้ในอีเมลแจ้งเตือนโดยตรง ทำให้คุณรู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างโดยไม่ต้องเข้าไปดูที่หน้า Marketplace ทุกครั้ง
Capital connector
Siemens Capital คือชุดซอฟต์แวร์สำหรับออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) เช่น สถาปัตยกรรมระบบ, เครือข่ายการสื่อสาร และซอฟต์แวร์ embedded โดยใช้กันมากในอุตสาหกรรม Aerospace & Defense, Automotive, Transportation และ Heavy Equipment
Mendix Capital Connector คือโมดูลที่มี microflows ไว้เชื่อมต่อกับ Capital ผ่าน REST API ทำให้
- ยืนยันตัวตน (authentication) ได้ง่าย
- ดึงข้อมูลจาก Capital เข้ามาใส่ใน Mendix Domain Model ได้สะดวก
- สามารถปรับแต่งการใช้งานต่อยอดได้ตามต้องการ
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน Adapt and Extend ของ Mendix Industry team ที่ต้องการเชื่อม Mendix เข้ากับผลิตภัณฑ์ Xcelerator ของ Siemens 4 ตัว ได้แก่ Teamcenter, Opcenter, Capital และ Polarion หลังจากทำ Teamcenter และ Opcenter ไปแล้ว คราวนี้เป็นคิวของ Capital ซึ่งเริ่มด้วยการสร้าง Connector ตัวนี้เป็น Building Block แรก
สิ่งที่ลูกค้าของ Capital ทำได้เมื่อใช้ Capital Connector
- ดึงข้อมูลจาก Capital เข้าสู่ Mendix Domain Model ได้อย่างง่ายดาย
- สร้างแอปเฉพาะบุคคล (persona-specific apps) โดยเชื่อมข้อมูล Capital เข้ากับระบบอื่น เช่น
- PLM
- ERP
- MES
- นำข้อมูลของ Capital ไปใช้งานกับผู้ใช้กลุ่มที่ไม่ใช่ core users โดยไม่ต้องให้พวกเขาเข้าใช้ Capital โดยตรง ซึ่งใช้งานยากและซับซ้อน
Smart Apps
Altair RapidMiner showcase app: Learn how to integrate machine learning predictions into Mendix
Altair RapidMiner ช่วยให้องค์กรสร้างโมเดล Machine Learning ผ่าน AI Studio และนำไปใช้งานจริงผ่าน AI Hub ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแอป Mendix ได้อย่างราบรื่น
มีแอปตัวอย่างใหม่ชื่อ Altair RapidMiner Showcase App ที่สอนวิธีเชื่อมการพยากรณ์จาก ML เข้ากับ Mendix ผ่าน REST services โดยตัวอย่างนี้เน้นการ คาดการณ์การลาออกของพนักงาน (Employee Attrition Prediction)
ใน showcase คุณจะได้เห็นวิธี:
- เรียกใช้งาน AI Hub endpoint จาก Mendix
- ส่งข้อมูลไปให้โมเดล ML
- รับผลลัพธ์การพยากรณ์กลับมาใช้ประกอบการตัดสินใจด้าน HR
สิ่งสำคัญคือ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน Data Science หรือ Machine Learning มาก่อน
Altair RapidMiner และคู่มือ how-to นี้จะสอนทุกอย่างที่จำเป็นในการเริ่มต้น
Reference from Mendix Blog: Release 11.4 – Better Faster Smarter