
ข่าวใหญ่! ตอนนี้เรามีเวอร์ชัน Long-Term Supported (LTS) ตัวล่าสุดแล้ว – เพื่อนคู่ใจคนใหม่สำหรับใครที่ชอบความเสถียรแบบสุดๆ โดยไม่พลาดฟีเจอร์ดีๆ ทั้งหลาย คิดซะว่าเป็นม้าศึกผู้ไว้ใจได้ของแพลตฟอร์มเรา ที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี พร้อมฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด การปรับปรุงประสิทธิภาพ และปราศจากดราม่า (เท่าที่เทคโนโลยีจะทำได้!)
ไม่ว่าคุณจะอยากให้ทุกอย่าง “ใช้งานได้เลย” หรือมองหาเส้นทางอัปเกรดที่มั่นคง LTS เวอร์ชันนี้ตอบโจทย์แน่นอน เราจะพาคุณไปดูว่าเวอร์ชันนี้มีอะไรใหม่ อะไรเปลี่ยนไปจาก Mendix 9 และทำไมตอนนี้ถึงเป็นเวลาที่เหมาะจะอัปเกรด
อ้อ! ถ้าคุณสงสัยว่าเวอร์ชัน LTS กับ MTS ของ Mendix ต่างกันยังไง เรามีเอกสารสรุปให้อ่านง่ายๆ ไว้ให้เก็บเป็นบุ๊กมาร์กด้วยนะ!
Studio Pro 10.24
เวอร์ชัน LTS นี้มาพร้อมกับการอัปเกรดที่มีประโยชน์แบบจริงจัง เพื่อให้ชีวิตการพัฒนาแอปของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น มีทั้งการปรับปรุง Maia, ในการลดเวลาการสร้างแอปให้เร็วขึ้น, รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ, รองรับการใช้งาน หลายภาษา (GA Multilingual) อย่างเต็มรูปแบบ และยังมีการปรับปรุงด้านคุณภาพการใช้งานอีกมากมายเพื่อให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
Maia for pages: New widgets and Styling support
ตอนนี้คุณสามารถสั่ง Maia ให้ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น เช่น อัปเดต CSS class บน widget, ใส่สไตล์แบบการ์ด (เหมาะมากกับหน้า dashboard), และเพิ่ม component จากรายการ widget ที่รองรับเพิ่มเติม เช่น Data grid 2, Combo box, รูปภาพ และกราฟแบบ custom ทั้งหมดนี้ทำได้ผ่านการพิมพ์คำสั่งแบบสนทนา หรือแม้แต่การอัปโหลดภาพดีไซน์
คุณสามารถสร้างหน้า dashboard หรือหน้า overview ได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่อัปโหลดดีไซน์หรือบอก Maia ว่าคุณต้องการอะไร และเมื่อคุณต้องการปรับปรุงสไตล์ของแอป ก็สามารถสั่งให้ Maia ลบ custom CSS class ทั้งหมด หรือเปลี่ยน class ต่างๆ บนหน้านั้นแบบเป็นระบบ ช่วยลดงานแก้ไขด้วยมือที่น่าเบื่อได้อย่างมาก
การอัปเกรดเหล่านี้ช่วยทั้งในขั้นตอนสร้างหน้าเริ่มต้นและการดูแลรักษาแอปในระยะยาว

Improved app startup time with Windows Defender Exclusion
เพื่อให้แอปของคุณเริ่มทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Studio Pro เวอร์ชันใหม่นี้มาพร้อมกับการตรวจสอบใหม่ ที่จะเช็กว่าโฟลเดอร์โปรเจกต์ของแอปคุณถูกสแกนโดย Windows Defender หรือไม่ ถ้าใช่ Studio Pro จะถามว่าคุณต้องการให้มันช่วย ยกเว้นโฟลเดอร์นั้นจากการสแกน หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้แอปรันบนเครื่องได้เร็วขึ้น ลดเวลาในการรอให้แอปเริ่มทำงานลงอย่างเห็นได้ชัด
Enhancing PDF Document Generation for unparalleled flexibility
เราพบว่าความสามารถใหม่ในการสร้างเอกสาร PDF ของเรานั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยลูกค้าจำนวนมากชื่นชอบที่สามารถสร้างไฟล์ PDF แบบ pixel-perfect จากหน้าจอ Mendix ได้โดยตรง
เนื่องจากบางองค์กรมีข้อกำหนดเฉพาะ เช่น การทำงานใน สภาพแวดล้อมที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (air-gapped) หรือความต้องการในการปรับแต่งการใช้งานในระดับลึก เราจึงภูมิใจที่จะแนะนำเวอร์ชันใหม่ของบริการสร้าง PDF ที่ทำงานบน Docker container ซึ่งช่วยให้คุณสามารถรันบริการ PDF Document Generation ของคุณเอง พร้อมการควบคุมและการตั้งค่าที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ประสิทธิภาพ หรือการแบ่งปันข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงกับองค์กรของคุณ
นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะเปิดตัว แพ็กเกจแบบชำระเงิน ที่รองรับการสร้าง PDF ได้ในปริมาณมากขึ้นต่อวันภายในปีนี้ แต่หากแอปของคุณต้องการขยายขีดจำกัดในตอนนี้ กรุณาติดต่อ Customer Success Manager (CSM) ของคุณโดยตรง
หมายเหตุ: ระบบ Document Template (โซลูชันเดิมสำหรับสร้าง PDF และเอกสารอื่น ๆ) จะถูก ยกเลิกการใช้งานใน Mendix เวอร์ชัน 10.24 นักพัฒนาที่ยังใช้งาน Document Templates อยู่ ควรเริ่มวางแผน เปลี่ยนมาใช้โมดูล PDF Document Generation แทน สำหรับการสร้างเอกสารในรูปแบบอื่น ๆ โปรดดูคู่มือการย้ายระบบ (migration guide) ที่มีให้ในเอกสารของ Mendix เพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมและย้ายระบบได้อย่างราบรื่น
Pinpoint performance issues with OpenTelemetry Tracing
Tracing เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการค้นหาคอขวดด้านประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ตรรกะที่ทำงานผิดพลาดในแอปของคุณ และใน Mendix 10.24 ฟีเจอร์นี้ก็พร้อมใช้งานแล้วอย่างเป็นทางการ โดยใช้มาตรฐาน OpenTelemetry ซึ่งช่วยให้คุณเข้าถึงเครื่องมือด้านการตรวจสอบ (observability) ได้โดยตรงในกระบวนการพัฒนา
Tracing นี้เปิดตัวครั้งแรกในเวอร์ชัน 10.18 (public beta) และตอนนี้สามารถเปิดใช้งานและตั้งค่าได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่าน Studio Pro โดยเราได้เพิ่ม OpenTelemetry Java agent เข้าไปใน Mendix Runtime แล้ว ทำให้สามารถใช้งานได้ในหลายรูปแบบของการดีพลอยแอป

ไม่ว่าจะพัฒนาแอปบนเครื่องของคุณเอง หรือดีพลอยขึ้นเซิร์ฟเวอร์ Tracing ก็รองรับอย่างสมบูรณ์แล้วในตอนนี้ และเรายังไม่หยุดแค่นั้น — ทีมงานกำลังดำเนินการเพื่อให้ Tracing ใช้งานได้ใน Mendix Private Cloud และ Public Cloud ด้วยเช่นกัน
ด้วยการที่ Tracing ถูกฝังมาในแพลตฟอร์มโดยตรง การวิเคราะห์ประสิทธิภาพเชิงลึกของแอปจึงกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเอกสารของเรา
Quickly draw new flows (arrows) from your elements while working with the logic editors
เพื่อให้คุณสามารถควบคุมและจัดการกับองค์ประกอบต่างๆ บนแคนวาสได้อย่างแม่นยำและสะดวกยิ่งขึ้น เราได้เพิ่มฟีเจอร์ ‘การเลือกด้วยการคลิก (on-click selection)’ ซึ่งช่วยให้การเลือกและโต้ตอบกับองค์ประกอบที่ต้องการทำได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อให้คุณเชื่อมโยงองค์ประกอบต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น เรายังเพิ่ม คีย์ลัด (hotkey) ใหม่ เพียงแค่ กดปุ่ม Shift ค้างไว้และเลื่อนเมาส์ไปที่องค์ประกอบ ระบบจะแสดงจุดเชื่อมต่อ (connection points) ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณสามารถวาดลูกศรเชื่อมโยงได้ทันที โดยไม่ต้องเลือกองค์ประกอบนั้นก่อน
Data widgets – Powerful global filtering capabilities
เราตื่นเต้นที่จะนำเสนอการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Data widgets ซึ่งแก้ปัญหาที่มีมานาน นั่นคือข้อจำกัดที่ไม่สามารถเพิ่มฟิลเตอร์ประเภทเดียวกันได้มากกว่าหนึ่งตัวในระดับ global (เช่นในส่วน header ของ Data grid 2 หรือ Gallery widget)
การอัปเดตนี้เปลี่ยนรูปแบบการกรองข้อมูลในตาราง (grid-wide filtering) โดยให้คุณสามารถ กำหนดฟิลเตอร์ให้ตรงกับ attribute ที่ต้องการกรองได้โดยตรง ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและการควบคุมที่มากขึ้น คุณสามารถสร้างประสบการณ์การค้นหาที่เข้าใจง่าย โดยสามารถกรองข้อมูลแม้จะเป็น attribute ที่ไม่ได้แสดงผลบนหน้าจอก็ตาม
ฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดโอกาสให้คุณสร้างระบบการกรองที่ทั้งทรงพลังและใช้งานง่าย ซึ่งผู้ใช้ของคุณจะต้องประทับใจแน่นอน
React Client – Now enabled by default
อนาคตของการพัฒนา Front-end บน Mendix คือการใช้ React client ซึ่งมีความเร็วและเสถียรมากกว่า Dojo client แบบเดิม อีกทั้งยังรองรับการโหลดหน้าแบบ incremental page loading ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจให้ React client ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติสำหรับทุกโปรเจกต์ใหม่ บน Mendix การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถสร้างแอปที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงได้ตั้งแต่เริ่มต้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน React client ได้ในเอกสารของเรา
Offline-first – Combining offline and online data
แอปแบบ Offline-first กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลายกรณีการใช้งาน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมบนมือถือที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจไม่เสถียรหรือไม่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา แต่ในอดีต การสร้างแอปลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เพราะนักพัฒนาต้องออกแบบทุกส่วนให้สามารถทำงานแบบออฟไลน์ได้ รวมถึงต้องจัดการเรื่องการจัดเก็บข้อมูลในเครื่องและการซิงค์ข้อมูลอย่างระมัดระวัง
แต่ใน Mendix 10.24 ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป! ตอนนี้นักพัฒนาสามารถ เลือกได้อย่างอิสระ ว่าส่วนใดของแอปควรทำงานแบบออฟไลน์ และส่วนใดสามารถทำงานแบบออนไลน์ได้ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเริ่มต้นจากแอปที่ทำงานออนไลน์ทั้งหมด แล้วค่อยๆ เพิ่มความสามารถแบบออฟไลน์ในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
การเปิดใช้งานข้อมูลออนไลน์ในแอปที่ใช้โหมด offline-first ก็ทำได้ง่าย เพียงแค่เลือก “online synchronization mode” สำหรับ entity ที่คุณต้องการให้ทำงานแบบออนไลน์ ข้อมูลใน entity เหล่านี้จะ ไม่ถูกซิงค์กับ local storage และจะถูกจัดการโดย runtime สำหรับการดึงข้อมูลและการอัปเดตโดยตรง นอกจากนี้ นักพัฒนายังสามารถใช้งาน microflow เป็น data source หรือ event handler ได้บนทุกหน้า แม้จะเป็นหน้าในโปรไฟล์ที่ตั้งค่าแบบออฟไลน์ก็ตาม

โหมด online synchronization นี้เคยเปิดให้ใช้งานแบบ public beta ตั้งแต่เวอร์ชัน Mendix 10.19 และในตอนนี้ก็พร้อมใช้งานทั่วไปอย่างเป็นทางการแล้ว
Warnings for Java Library conflicts
Java มีระบบนิเวศของไลบรารีที่หลากหลายและทรงพลัง ซึ่งช่วยเสริมความสามารถให้กับแอป Mendix ของคุณได้อย่างง่ายดาย และด้วยการแนะนำ ระบบ managed dependencies การจัดการไลบรารีเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีบางโมดูลที่ยังไม่ได้ใช้ระบบนี้ ทำให้บางครั้งอาจเกิดปัญหาเรื่องเวอร์ชันของไลบรารีซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งกันได้
ใน Mendix 10.24 เราได้ปรับปรุงให้การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเรื่อง Java library conflicts ง่ายขึ้น โดย Mendix Console จะแสดงคำเตือนหากมีไลบรารีที่ถูกใช้งานหลายเวอร์ชันจากโมดูลต่างๆ คุณจะเห็นว่าไลบรารีเวอร์ชันใดมีอยู่บ้าง และระบบจะแนะนำว่าควรเก็บเวอร์ชันใดไว้ การแก้ไขก็ง่ายมาก: เพียงแค่ ลบไฟล์ไลบรารีเวอร์ชันเก่า ที่ไม่ต้องการออก

ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยคุณประหยัดเวลา ลดความผิดพลาด และทำให้โปรเจกต์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
Event Broker HTTP Bridge
Mendix Event Broker เวอร์ชันล่าสุดเปิดให้คุณสามารถตั้งค่า REST endpoint ภายใน Event Broker ได้แล้ว ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถส่ง event จากระบบภายนอก มายัง Mendix ได้โดยตรง เช่น event จากสายการผลิต (assembly line) หรือจากแอปพลิเคชันที่พัฒนาด้วย Java หรือ .Net
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การทำ integration แบบ near real-time ระหว่างแอป Mendix กับซอฟต์แวร์อื่น ๆ เป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดย Mendix Event Broker จะทำหน้าที่รับประกันว่า event ทางธุรกิจของคุณจะถูกส่งต่อไปยังแอป Mendix ที่สมัครรับข้อมูลไว้ (subscribed) อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้
ช่วยให้คุณสร้างระบบที่ทำงานร่วมกันได้แบบทันที (real-time interaction) โดยไม่ต้องพึ่งการดึงข้อมูลแบบเดิมหรือเขียนโค้ดเชื่อมระบบให้ยุ่งยาก
Building smart and agentic apps
Mendix มอบรากฐานที่มั่นคงให้คุณสร้างแอปที่ชาญฉลาด ตอบสนองได้รวดเร็ว และรองรับตรรกะที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ — โดยไม่ต้องแบกรับภาระของ technical debt ที่ไม่จำเป็น
แม้ว่าแพลตฟอร์มจะรองรับแนวทางขั้นสูงอย่างเช่น agentic behavior (พฤติกรรมแบบตัวแทน) แต่โพสต์นี้จะเน้นไปที่ เครื่องมือที่ได้รับการปรับปรุงและความเสถียร ที่เวอร์ชัน Mendix 10.24 มอบให้สำหรับการพัฒนาในระดับองค์กรโดยเฉพาะ
หากคุณสนใจว่าเรากำลังพัฒนาอะไรต่อไปในด้าน AI และแอปแบบ agentic เราได้พูดถึงเรื่องนั้นไว้ในโพสต์เกี่ยวกับ Mendix 11.0
What is new in Studio Pro 10 compared to Studio Pro 9?
การปรับปรุงทั่วไป (Studio Pro ทั่วไป)
- UI ใหม่: ปรับหน้าตา Studio Pro ให้ทันสมัย ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
- รองรับ Mac (เวอร์ชัน Beta): ตอนนี้ Studio Pro สามารถใช้งานได้บน macOS โดยตรง (ยังอยู่ในช่วงทดสอบ แต่สามารถใช้ editor ได้ครบถ้วนเหมือนบน Windows)
- ปรับปรุงความเสถียรและประสิทธิภาพ: เร็วขึ้น ตั้งแต่เริ่มสร้างแอปจนถึงการดีพลอย
- รองรับแอปหลายภาษาได้ดียิ่งขึ้น: ส่งออก/นำเข้าไฟล์แปลภาษาแบบ command line ได้ในครั้งเดียว (ทั้งแบบ Excel รวมทุกภาษา หรือใช้ไฟล์ PO ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม)
- ประสบการณ์การใช้ Git ดีขึ้น: รูปแบบ MPRv2 ใหม่ และการปรับ UI ช่วยให้ทำงานร่วมกับ Git ได้ราบรื่นในโปรเจกต์เล็กและใหญ่
- จัดการ Java Dependencies อัตโนมัติ: ป้องกันปัญหาเวอร์ชันซ้ำซ้อนด้วย Gradle (รองรับ air-gapped environment ด้วย)
- รองรับ Java 21: Mendix runtime อัปเดตให้ทันสมัย พร้อมรองรับอนาคต
- บันทึกอัตโนมัติ: ตั้งให้บันทึกอัตโนมัติตอนปิด editor หรือรันแอป ลดความเสี่ยงทำงานหาย
- ปุ่มถอยหลัง/เดินหน้า: เหมือน browser ทำให้การย้อนกลับไปหน้าเดิมระหว่าง editor ทำได้ง่าย
- รองรับการขยาย Studio Pro: เพิ่มความสามารถใหม่ผ่าน C# และ TypeScript ได้แล้ว
Mendix AI Assistant (Maia)
- Maia สำหรับโมเดลข้อมูล: สร้าง/ปรับ domain model จาก prompt, user story, หรือคำถามโต้ตอบ
- Maia สำหรับหน้า UI: สร้างหน้า UI จาก design, PDF, หรือ user story ได้อย่างรวดเร็ว
- Maia Explain: อธิบายตรรกะของ microflow/nanoflow พร้อมให้ถามต่อได้
- Maia Chat: ถามคำถามเกี่ยวกับ Mendix ได้ครอบคลุม ทั้งจาก documentation, forum, blog ฯลฯ
- Maia Translation: แปลแอปเป็นภาษาอื่นด้วย AI
- Maia Recommenders: แนะนำขั้นตอนถัดไปและตรวจจับ anti-patterns อัตโนมัติ
ข้อมูลและการเชื่อมต่อ (Data & Integration)
- View Entities: ทำงานกับข้อมูลซับซ้อนได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น
- Filter Builder แบบภาพ: กำหนดการกรองโดยไม่ต้องเขียน XPath เอง
- Live API Preview: ทดสอบ API ได้ทันทีใน Studio Pro โดยไม่ต้องออกไปใช้ Postman
- รองรับ OpenAPI: นำเข้า/สร้าง API docs แบบ OpenAPI ได้ พร้อมใช้งานใน Mx Connect Catalog
- รองรับ GraphQL: ให้บริการ API ทั้งแบบ OData และ GraphQL ได้
- External Database Connector: เชื่อมต่อฐานข้อมูลนอก Mendix ได้แบบ interactive พร้อมดูตาราง/เขียน query ได้
- นำเข้า CSV/Excel ดีขึ้น: ใช้ไฟล์ตัวอย่างสร้าง mapping ได้
- Reverse Associations: ตั้งความสัมพันธ์ผิด? กลับทิศทางได้ทันที
การสร้าง UI / Page
- React Client: ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น โหลดเร็ว ใช้งานลื่น รองรับ progressive loading
- Page Editor ใหม่: ปรับ UI, X-ray mode, UI recommender ฯลฯ
- Widgets ใหม่และปรับปรุง:
- Data Grid 2: รองรับ personalization, export Excel, accessibility, ฯลฯ
- Combo Box: ตัวเลือกขั้นสูง แทน dropdown/reference selector เดิม
- File Uploader, Document Viewer, Markdown, Dynamic Tabs
- Widget Conversion: แปลง widgets เดิมเป็นเวอร์ชันใหม่ได้ในคลิกเดียว
- Atlas UI Kit สำหรับ Figma: ทำงานร่วมกับดีไซน์ทีมได้ง่ายขึ้น
ตรรกะ (Microflow/Nanoflow)
- เร็วขึ้น: เปิด microflow ขนาดใหญ่ได้เร็วกว่าเดิม
- Smart Suggestion: AI แนะนำสิ่งที่ควรเพิ่ม
- พารามิเตอร์เลือกได้ว่าจำเป็นหรือไม่ พร้อมค่า default
- Snap-to-Flow และ Alignment อัตโนมัติ
- Aggregate ใหม่: เช็ก if any, reduce to value ฯลฯ
- แปลง Microflow ↔ Nanoflow ได้
- Debug สะดวกขึ้น: กดปุ่มเดียวข้าม breakpoint ทั้งหมด
- ฟังก์ชันใหม่:
- ListLength()
- CurrentIndex
- ตั้งชื่อค่าที่ return เองได้
Workflow
- Wait for Notification: รอ action ก่อนดำเนินการต่อ
- Multi-user Tasks: รองรับการประเมินแบบ consensus, veto ฯลฯ
- Auto Assign: ตั้งค่าความยืดหยุ่นในการกำหนดผู้รับ task
- Retrieve Activity Records: ดู timeline กิจกรรมใน workflow ได้
- Timer Activity: ตั้งเวลาหน่วงก่อนดำเนินการต่อ
- Event Handlers: ฟัง event ต่างๆ (กว่า 30 แบบ) เพื่อใช้ทำ audit, error handling ฯลฯ
- Boundary Events: แนบ logic ตาม BPMN เช่น หมดเวลาแล้วส่งต่อให้ manager
Mobile
- เร็วขึ้น: ใช้ Hermes engine และปรับปรุง offline DB ใหม่
- รองรับ Android/iOS รุ่นล่าสุด
- PWA ดีขึ้น: รองรับ Push Notification ทั้ง iOS และ Android
- Offline + Online ใช้ร่วมกันได้ในแอปเดียว
- CI/CD Workflow ใหม่: คู่มือเชื่อมกับ Bitrise, Azure
- Make It Native App ใหม่: หน้าตาทันสมัย บันทึก connection ได้
ระดับองค์กร (Enterprise-grade)
- Strict Mode: ปกป้องการเข้าถึงข้อมูลผิดพลาดโดยอัตโนมัติ
- Security Overview: หน้ารวมการตั้งค่าความปลอดภัยทั้งหมด
- Tracing (OpenTelemetry): ดูประสิทธิภาพแอปเชิงลึก
- Access Rules Editor ใหม่
- Remember Me: ตั้งค่าจำผู้ใช้แบบปลอดภัยได้ง่าย
ด้วย Feature release ที่กล่าวมาทั้งหมด ท่านสามารถมั่นใจได้ว่าใน Mendix Studio Pro 10.24 สามารถเพิ่มศักยภาพในการของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน