
Mendix 10.21 เป็นเวอร์ชันสุดท้ายของ Mendix 10 ที่มีการอัปเดตครั้งใหญ่ เพื่อให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่ ความเสถียรและคุณภาพ สำหรับ LTS (Long-Term Support) ที่จะมาในเดือนมิถุนายน และแน่นอนว่าเราจัดเต็มกับเวอร์ชันนี้! Maia AI ได้รับการปรับปรุงอย่างทรงพลัง เช่น สร้างหน้าอัตโนมัติจากดีไซน์หรือคำสั่ง (Prompts), อธิบายตรรกะของแอป, และ ใช้ Maia สร้าง User Stories การทำงานกับข้อมูลง่ายขึ้นและทรงพลังขึ้น ด้วยการอัปเดต View Entities และ Local Variables ที่ช่วยให้การสร้างหน้า UI เป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม การเชื่อมต่อ REST API เร็วขึ้น ด้วย การนำเข้า OpenAPI ควบคุมแอปได้ดียิ่งขึ้น ด้วย Software Composition GA และ โมดูล Unit Testing ที่ได้รับการปรับปรุง และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย!
Mendix AI Assistance (Maia)
ยังคงมีนวัตกรรมใหม่ ๆ และในเดือนนี้ยังมี AI ที่อัพเดตเพิ่มเติม
Maia Page Generation
คุณเคยอยากเปลี่ยน UI ดีไซน์ ของคุณให้เป็นหน้า Mendix ที่ใช้งานได้จริงเพียงไม่กี่คลิกไหม? หรือสร้างหน้าแอปโดยแค่ พิมพ์คำอธิบาย? ตอนนี้ Maia Page Generation ที่เปิดให้ทดลองใช้แบบ Public Beta กำลังทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริง!
สร้างหน้าแอปจากดีไซน์ได้ง่าย เพียง อัปโหลดภาพดีไซน์ (เช่น Figma mockup หรือ screenshot) พร้อมคำอธิบาย (ถ้ามี) ระบบ AI จะสร้างหน้า Mendix ให้อัตโนมัติ นอกจากนี้ คุณสามารถ ใช้คำสั่ง (Prompt) โดยไม่ต้องมีภาพ เพื่อสร้างหน้าใหม่จากศูนย์ เชื่อมโยงกับ Doamin model อัตโนมัติ Maia จะตรวจจับวิดเจ็ตอินพุตและเชื่อมโยงกับ Attributes ในโมเดลข้อมูลของคุณโดยอัตโนมัติ ประหยัดเวลาในการตั้งค่า Data Binding
เริ่มใช้งานได้ง่าย
- เปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ใน Preferences: ไปที่ “New features” > “Maia” > “Enable page generator (experimental)”
- เปิดหน้าแอป แล้วคลิก “Generate page” บน Toolbar
- ใช้ Maia chat เพื่ออัปโหลดภาพและคำอธิบาย
เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดลอง (Experimental Phase) ฟีเจอร์นี้มีข้อจำกัดบางอย่าง ซึ่งทีมพัฒนากำลังขยายความสามารถเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดใน เอกสารประกอบ (Documentation) เพื่อทราบข้อจำกัดปัจจุบัน
Maia Explain for logic documents
ในฐานะนักพัฒนา เราทุกคนคงเคยเจอสถานการณ์ที่ แอปของคุณมี Microflows ที่สร้างโดยคนอื่น และคุณต้องการทำความเข้าใจตรรกะภายในของมันอย่างรวดเร็ว นี่คือจุดที่ (Experimental) Maia Explain เข้ามาช่วย
Maia Explain ทำอะไรได้บ้าง?
- สรุป Microflow หรือ Nanoflow ว่าทำงานอย่างไร
- แสดง Inputs, Return Values และจุดเด่นทางเทคนิค
- ถามคำถามเพิ่มเติม เพื่อขอคำอธิบายในมุมมองที่ต่างกันได้
ประโยชน์หลัก
- ช่วยให้เข้าใจ Microflow ที่ซับซ้อน ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องมีเอกสารประกอบ
- สามารถใช้เพื่อ สร้างเอกสารสรุป สำหรับ Microflow/Nanoflow ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป: Maia Explain ช่วยให้คุณอ่านและเข้าใจ Microflow ได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลาและช่วยจัดทำเอกสารได้ง่ายขึ้น!

Maia Story Creation in Epics – Public Beta
การเขียน User Stories ที่มีคุณภาพสูงอาจใช้เวลานานและเป็นเรื่องท้าทาย แต่ด้วย Maia คุณสามารถสร้าง User Stories ที่ชัดเจน โครงสร้างดี และนำไปใช้งานได้จริง ภายในไม่กี่วินาที ช่วยให้คุณและทีม โฟกัสกับการพัฒนาแอป ได้เต็มที่!
ปัญหาของ User Stories ที่ไม่ชัดเจน อาจนำไปสู่ ความเข้าใจผิด, ต้องแก้งานใหม่ และเกิดความล่าช้า การทำให้สอดคล้องกับ Agile Best Practices ต้องใช้ความพยายามมาก
Maia Story Creation ช่วยอะไรได้บ้าง?
- สร้าง User Stories ที่ชัดเจนและเป็นระบบ ได้อย่างง่ายดาย
- ช่วยให้ทีมมีความเข้าใจตรงกัน ลดโอกาสการทำงานผิดพลาด
- เพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดเวลาในการเขียนและปรับปรุง Stories
- ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น นำไปสู่ฟีเจอร์ที่พัฒนาออกมาได้อย่างแม่นยำ
ลองใช้ Maia Story Creation ใน Epics วันนี้ แล้วสัมผัสวิธีใหม่ที่ ฉลาดกว่าในการเขียน User Stories!
Studio Pro
Variables for pages and snippets
ที่ Mendix เรามุ่งมั่นลดระยะเวลาจาก ไอเดียสู่ผลลัพธ์ และฟีเจอร์ Variables สำหรับ Pages และ Snippets ช่วยให้การสร้างหน้าแอปเร็วขึ้น ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน และทำให้โมเดลของคุณเรียบง่ายขึ้น
Variables ทำงานอย่างไร?
- ใช้งานเหมือน Parameters: นักพัฒนาสามารถกำหนด Variables บน Pages และ Snippets และใช้เหมือน Attributes บน Widgets
- กำหนดค่าเริ่มต้นได้: รับค่าเริ่มต้นจาก Page Parameters หรือ Expressions
- ส่งต่อไปยัง Microflow/Nanoflow ได้: ใช้เป็นพารามิเตอร์ หรือใช้ใน Expression ต่างๆ เช่น Conditional Visibility และ Editability
ประโยชน์หลัก
- ลดความยุ่งยาก – ไม่ต้องใช้ Non-Persistent Entity, Microflow หรือ Data View เพื่อจัดการค่า
- เพิ่มความยืดหยุ่น – ใช้กับ Search Form, Login Page หรือ Switch สำหรับแสดง/ซ่อน Widgets ได้ง่าย
- ประหยัดเวลาและลดภาระความคิด – ทำให้การพัฒนาเร็วขึ้นและโมเดลสะอาดขึ้น
เพียงแค่สร้าง Local Variables และใช้กับ Widgets ได้เลย!

ข้อความเสริม: ไม่จำเป็นต้องใช้ Data View หรือ Non-Persistent Entity ในการสร้าง Login Page อีกต่อไป
ดังนั้น บอกลา PageHelper Objects ได้เลย! เพราะ Variables จะช่วยให้การออกแบบแอปของคุณง่ายขึ้นกว่าเดิม!
File Uploader improvements
เราเปิดตัว File Uploader Widget เวอร์ชัน 2 🎉
- มาพร้อมการตั้งค่าล่วงหน้า – มี Data Sources และ Actions ที่จำเป็นมาให้แล้ว
- ทำงานอัตโนมัติ – แค่ วางใน Data View ที่มี File Upload Context ก็ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องตั้งค่าเพิ่ม
- ปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อน – รองรับ อัปโหลดหลายไฟล์, ปรับแต่ง Timeout, และโหมด Read-Only
📌 หมายเหตุ: v2 ต้องใช้ Mendix Studio Pro 10.16 ขึ้นไป
Mendix Unit Testing Module update
Unit Testing เป็นส่วนสำคัญในการทำให้แอป Mendix ของคุณ เชื่อถือได้ เสถียร และตรงตามข้อกำหนด
- เขียน Unit Test สำหรับ Microflows และ Custom Java Actions
- จับข้อผิดพลาด (Bugs) ได้เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต
- เพิ่มความมั่นใจ ใน Microflow Logic และช่วยให้แอปรักษาได้ง่ายขึ้น
อัปเดตใหม่ใน Unit Testing Module
- รายงานผลทดสอบที่ชัดเจน – แสดง ผลลัพธ์และรายละเอียดข้อผิดพลาด ในมุมมองเดียว
- ประเมิน Assertions ทั้งหมด ได้ในครั้งเดียว ค้นหาข้อผิดพลาดได้เร็วขึ้น
- เพิ่ม Assert และ ReportStep ใน Microflow Toolbox ใช้งานได้ทันที
- ปิดการทำงานของ Unit Test บน Production โดยอัตโนมัติ – ป้องกันการรันโดยไม่ได้ตั้งใจ
ช่วยให้เขียนและรันทดสอบได้ง่ายขึ้น ลดข้อผิดพลาด และประหยัดเวลา ดาวน์โหลด Unit Testing Module เวอร์ชันใหม่ได้ที่ Mendix Marketplace!

Reviewing application security with the Security Overview
การรักษาความปลอดภัยของแอปเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแค่ทำให้แอปเชื่อถือได้และเสถียร แต่ยังต้องมั่นใจว่า ข้อมูล, หน้าเพจ, และตรรกะ (logic) ได้รับการปกป้อง
ความท้าทายในแอปขนาดใหญ่
- การจัดการความปลอดภัยเป็นงานใหญ่ – ข้อผิดพลาดอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
- ลูกค้าหลายรายใช้กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงระหว่างการพัฒนา
Mendix แก้ปัญหานี้ด้วย Security Overview
เปิดตัวครั้งแรกใน Mendix 10.18 (Public Beta) และตอนนี้ พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบแล้ว! คุณสมบัติเด่นของ Security Overview
- สรุปทุกด้านของการตั้งค่าความปลอดภัย ไว้ในรายงานเดียว
- แสดงสิทธิ์การเข้าถึง (Access Rights) ตามบทบาทผู้ใช้ และ จับคู่สิทธิ์ระหว่าง Module Role และ Application User Role อัตโนมัติ
- แสดงบทบาทของ Anonymous User และ System.Administrator
- จัดระเบียบสิทธิ์การเข้าถึงตามโมดูล เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ
- สรุปสิทธิ์การเข้าถึง Entity ในรูปแบบตาราง – แสดงชัดเจนว่า Attribute ใดอ่าน/เขียนได้ และมี XPath Constraints อะไรบ้าง
- รวมสิทธิ์ของ Microflow, Nanoflow และ Page Access ไว้ในรายงานเดียว
- Export เป็นไฟล์ Excel เพื่อตรวจสอบนอก Studio Pro ได้
Security Overview ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยง่ายขึ้น แนะนำให้ทุกคนใช้งาน!

Security Overview สามารถเข้าถึงได้ผ่าน เมนู App ใน Studio Pro เมื่อมีการตั้งค่า Security เป็น Production อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Documentation
Maintain entity access rules in Style
Entity Access Rules เป็นหัวใจสำคัญของ ความปลอดภัยใน Mendix โดยกำหนดว่าผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลใดได้บ้าง อัปเกรดตัวแก้ไข (Editor) สำหรับ Access Rules ในเวอร์ชันนี้ 🚀
- ภาพรวมที่ครบถ้วน – ดูสิทธิ์การเข้าถึงทั้งหมดได้โดยตรงจาก Entity Dialog
- ปรับแต่งได้ง่าย – แก้ไขสิทธิ์การเข้าถึง ได้ในคลิกเดียว
- ปรับแต่งกฎการเข้าถึงได้สะดวกขึ้น – ทำให้ เจาะจงและปลอดภัยกว่าเดิม
ช่วยให้การจัดการ Access Rules ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้แอป Mendix ปลอดภัยและใช้งานได้อย่างราบรื่น!

ตัวแก้ไขใหม่ (Editor) ที่เคยเปิดให้ใช้งานใน Public Beta ตอนนี้พร้อมให้ใช้งานสำหรับทุกคนแล้ว! แอปพลิเคชันที่อัปเกรดเป็น Mendix 10.21 จะเปลี่ยนไปใช้ Editor ใหม่โดยอัตโนมัติ Mendix มีแผนจะเลิกใช้ Editor เก่าในเวอร์ชัน 11 เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและใช้งาน Editor ใหม่ได้เลย!
Typescript Extensibility Public Beta
สร้างส่วนขยาย (Extensions) สำหรับ Studio Pro ด้วย TypeScript & JavaScript ได้แล้ว!
- พัฒนา Extensions ได้ง่ายขึ้น – ช่วยให้ ISV, บริษัท, พาร์ทเนอร์, ลูกค้า และนักพัฒนา สามารถ ขยายและปรับแต่งการใช้งาน Studio Pro
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน – สร้าง เครื่องมือวิเคราะห์เฉพาะทาง, ตรวจสอบโค้ด, อัตโนมัติเวิร์กโฟลว์ และอื่น ๆ
- รองรับการเชื่อมต่อแบบเฉพาะทาง – เช่น Governance Tooling, การผสานผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่คุณต้องการ
เข้าถึง API ผ่าน NPM ได้แล้ววันนี้! อ่านเอกสารประกอบและเริ่มพัฒนา Studio Pro Extensions ของคุณได้เลย!
Pluggable widgets API: Primitives to logic
ส่งค่าจาก Pluggable Widget ไปยัง Logic ได้ง่ายขึ้น! ก่อนหน้านี้ การส่งข้อมูลจาก Pluggable Widget ไปยัง Microflow/Nanoflow ต้องอาศัย Attribute ของ Data View ตอนนี้ สามารถ ส่งค่าพื้นฐาน (Primitive Values) ไปยัง Action ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ Data View หรือ Non-Persistent Entity อีกต่อไป
- Widget สามารถกำหนดตัวแปรที่ใช้ใน Action ได้ใน Widget XML
- ค่าที่ส่งสามารถใช้ในการกำหนด Expression ของ Argument ใน Nanoflow หรือ Microflow ได้ทันที
- ช่วยให้นักพัฒนาใช้งาน Widget ได้ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Documentation
Java support
อัปเกรดเป็น Java 21 ใน Mendix 10.21! Mendix มุ่งมั่นที่จะทำให้แอปพลิเคชันของคุณ ทันสมัย มั่นคง และปลอดภัย ด้วยการอัปเกรดเป็น Java 21 ใน Mendix 10.21.0 Java 11 และ 17 จะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป
ข้อควรรู้เมื่อต้องการอัปเกรดเป็น Mendix 10.21 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า
- ต้องใช้ Java 21: หากแอปยังใช้ Java 11 หรือ 17 จะเกิด Consistency Error แต่สามารถแก้ไขได้โดยอัปเดตเป็น Java 21
- แนะนำให้อัปเดตก่อนการย้ายเวอร์ชัน: Java 21 รองรับตั้งแต่ Mendix 9.24.23 และมีแจ้งเตือน Deprecation ไว้แล้ว
- การติดตั้ง JDK: Studio Pro จะติดตั้ง JDK 21 ให้อัตโนมัติ เมื่อคุณติดตั้ง Mendix 10.11 หรือใหม่กว่า
- Deployment: Mendix Public Cloud รองรับ Java 21 แล้ว On-Premise Deployment ต้องติดตั้ง Java 21 ก่อนนำแอปที่อัปเดตแล้วไป Deploy
React client enabled by default for Mendix starter apps
React Client ถูกนำมาใช้ใน Mendix 10.18 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเตรียมแอปพลิเคชันของ Mendix ให้รองรับอนาคตได้ดีขึ้น คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อดีของการใช้ React client และวิธีการย้ายแอปของคุณไปยัง React client ใน Documentation ของเรา
ในเวอร์ชันนี้ React client จะถูกเปิดใช้งาน โดยเริ่มต้นสำหรับโปรเจ็กต์ใหม่ที่สร้างจาก Mendix blank apps เพื่อให้ลูกค้าใช้ฟีเจอร์ล่าสุดและดีที่สุดโดยอัตโนมัติ
Essential updates for native mobile apps
ในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของระบบปฏิบัติการมือถือ ทั้ง Android และ iOS ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้แอปพลิเคชันที่สร้างด้วย Mendix ทำงานได้อย่างราบรื่นและเข้ากันได้กับการอัปเดตเหล่านี้ เราขอแนะนำให้อัปเดตประจำปี ตามที่อธิบายในบล็อกโพสต์นี้ เราทุ่มเทในการรักษาความทันสมัยของแพลตฟอร์มโดยการอัปเดตไลบรารีที่เราใช้อยู่เสมอ
ในเวอร์ชันนี้ มีการอัปเดตที่สำคัญสำหรับโมดูล React Native หลายตัว รวมถึง Navigation, Web view, และแอนิเมชัน คุณสามารถดูรายการโมดูลทั้งหมดที่ได้รับการอัปเดตในหมายเหตุของ native template
หากคุณกำลังวางแผนที่จะอัปเกรดไปยัง Mendix 10.24 ในเดือนมิถุนายน เราขอแนะนำให้ทดสอบแอปของคุณในสาขาที่มีการอัปเดตนี้ เพื่อให้คุณสามารถทดสอบเวอร์ชัน React Native และโมดูลที่อัปเดตกับแอปของคุณ และตรวจสอบว่า native widgets หรือ JavaScript actions ที่คุณใช้ยังคงเข้ากันได้
Unlock new possibilities with inheritance in offline-first apps
แอปแบบ Offline-first ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ทำงานได้อย่างราบรื่น แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้พัฒนาฟีเจอร์ที่ทำได้ยากในสภาวะปกติ เช่น การใช้งานในพื้นที่ห่างไกลที่การเชื่อมต่อไม่เสถียร
แต่เดิม ข้อจำกัดของเทคโนโลยีฐานข้อมูลที่ใช้ในแอป Offline-first ทำให้ต้องมีกฎบางประการเกี่ยวกับ Domain Model โดยข้อจำกัดสำคัญคือ ไม่รองรับ Inheritance (การสืบทอด) ในบางกรณี ทำให้นักพัฒนาต้องปรับโครงสร้าง Domain Model ใหม่ เพื่อให้เข้ากับข้อจำกัดนี้ ซึ่งอาจเพิ่มขั้นตอนในการพัฒนา
ในเวอร์ชันนี้ เราภูมิใจที่ประกาศว่า ตอนนี้ Offline-first รองรับ Inheritance แล้ว! การอัปเกรดนี้ช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้นักพัฒนาสร้างแอป Offline-first ที่ทรงพลังมากขึ้น ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
Improved efficiency for storing associations
อัปเดตนี้มาพร้อมวิธีที่ดีกว่าในการเก็บข้อมูลความสัมพันธ์ (Associations):
ตอนนี้คุณสามารถเลือกให้ระบบเก็บข้อมูลความสัมพันธ์ ในตารางของ Object หลัก แทนการสร้างตารางเพิ่ม ทำให้ฐานข้อมูลมีขนาดเล็กลง และเพิ่มประสิทธิภาพการดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์
วิธีใช้งาน:
ไปที่หน้าตั้งค่าความสัมพันธ์ (Association Properties) แล้วเลือก “Direct Associations”

View Entities update
แม้ว่า View Entities จะยังอยู่ในช่วงเบต้า แต่เราได้เห็นลูกค้าหลายรายนำไปใช้ในระบบจริงแล้ว เนื่องจาก View Entities ช่วยให้การดึงข้อมูลง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมากในหลายสถานการณ์ ลูกค้าบางรายรายงานว่าการทำงานของ Data Grid ที่ซับซ้อนและดึงข้อมูลจากหลาย Entities เร็วขึ้นถึง 10 เท่า
ในเวอร์ชัน 10.21 นี้ เราได้ปรับปรุงการทำงานของ Autocomplete ใน OQL Editor โดยเพิ่มไอคอนที่แสดงประเภทข้อมูลต่าง ๆ ในรายการ Autocomplete ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Preview ยังมีตัวเลือกให้ทดสอบ OQL Query ด้วยผู้ใช้เฉพาะเจาะจงในแอปพลิเคชันของคุณ ช่วยให้คุณตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลที่ Query ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ:
รองรับการแปลง Mendix IDs เป็น Long Values
- ทำให้คุณสามารถเก็บและเปรียบเทียบ ID ได้ง่ายขึ้น
- ช่วยลดความซับซ้อนในการดึงข้อมูลโดยใช้ ID
Union Entities ที่มีความสัมพันธ์ต่างกัน
- View Entities ตอนนี้รองรับการรวม Entities ที่มี Associations ไม่เหมือนกัน (ดูตัวอย่างในภาพประกอบ)
อยากเห็นการทำงานจริง? ดูวิดีโอสาธิตเกี่ยวกับ View Entities บน YouTube ของเรา!

Workflow boundary events: jump and cascading
ตามที่ได้สัญญาไว้ หลังจากเปิดตัว Interrupting boundary events ในโหมดเบต้า (ส่วน non-interrupting boundary events นั้นเปิดตัวแบบ GA แล้ว) ตอนนี้คุณสามารถ:
- กระโดดกลับจากเส้นทาง Interrupting boundary ไปยังเส้นทางหลัก (parent path)
- กระโดดระหว่างเส้นทางภายใน Interrupting path เอง
- เพิ่ม boundary events ให้กับกิจกรรมในเส้นทาง boundary event ได้ (หรือที่เรียกว่า cascading boundary events)
ตัวอย่างการใช้งาน (ดูภาพประกอบ):
- เพิ่ม non-interrupting timer boundary event (1) เพื่อส่งการแจ้งเตือน 2 วันก่อนถึงกำหนด deadline
- หากงานอนุมัติยังไม่เสร็จสิ้นภายใน 1 วันหลังกำหนด (2):
- ระบบจะอนุมัติคำขอโดยอัตโนมัติ
- ยกเลิกขั้นตอนการรีวิว (Review Request จะถูกยกเลิก)
- กระบวนการทำงานจะดำเนินต่อไปในเส้นทางอนุมัติ (3)
- ผู้จัดการจะได้รับการแจ้งเตือน ทุก 4 ชั่วโมง (4) เมื่อมีงานที่อยู่ในเส้นทาง boundary event ถูกมอบหมายให้พวกเขา
- หากยังไม่ดำเนินการ ระบบจะส่งการแจ้งเตือนอีกครั้ง ในอีก 1 วันถัดมา (5) จนกว่างาน Review Request จะเสร็จสิ้นหรือถูกยกเลิก (escalated)
ประโยชน์ที่ได้:
- การจัดการ workflow ที่ซับซ้อนได้อย่างยืดหยุ่น
- ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติแบบหลายระดับ
- ลดงาน manual และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน

MPRv2: addressing rapid repository growth
เรายินดีแจ้งให้ทราบว่า MPRv2 รูปแบบการจัดเก็บใหม่สำหรับแอปพลิเคชัน Mendix ได้เปิดตัวแบบ Generally Available (GA) แล้วในเวอร์ชัน 10.21 ส่งท้ายช่วง Public Beta ที่เริ่มมาตั้งแต่เวอร์ชัน 10.18 เมื่อหลายเดือนก่อน
สำหรับแอปที่มีอยู่:
- ยังคงเป็นระบบ opt-in (เลือกใช้งานได้ตามต้องการ)
- สามารถแปลงรูปแบบได้ทีละ branch ผ่าน เมนู File
สำหรับแอปใหม่:
- จะถูกสร้างด้วยรูปแบบ MPRv2 โดยอัตโนมัติ
- ในเวอร์ชันถัดไป เราจะเริ่มแปลงแอปที่มีอยู่ให้เป็น MPRv2 โดยอัตโนมัติ
MPRv2 คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?
ระบบ Version Control (เช่น Git) บันทึกการเปลี่ยนแปลงของไฟล์ในแต่ละ commit โดยปกติแล้ว แอป Mendix จะถูกเก็บในไฟล์ .mpr เดียว ซึ่งทำงานคล้ายฐานข้อมูลที่รวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน (microflows, workflows, pages ฯลฯ) ทำให้ Git ไม่สามารถคำนวณความแตกต่าง (delta) ของไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ repository โตเร็วและใช้เวลาดาวน์โหลดนานเมื่อทำการ clone แอป
MPRv2 เปลี่ยนแปลงอย่างไร?
- เอกสารทั้งหมด (เช่น microflows, pages) จะไม่ถูกเก็บในไฟล์ .mpr อีกต่อไป
- แต่จะถูกแยกเป็นไฟล์เดี่ยวในโฟลเดอร์ mprcontents แทน
- ไฟล์ .mpr จะทำหน้าที่เป็น index file ที่ชี้ไปยังไฟล์ต่างๆ บนดิสก์
ประโยชน์ที่ได้:
- เมื่อคุณแก้ไขหน้าใดหน้าหนึ่ง Git จะคำนวณ delta ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเปลี่ยนแปลงเฉพาะไฟล์เล็กๆ ของหน้านั้นๆ
- ลดการขยายตัวของ repository
- ประหยัด bandwidth และเวลาในการ clone โปรเจกต์

Mendix Connect
Consumed REST: Import OpenAPI public beta
ตอนนี้คุณสามารถนำเข้า คำขอ REST จากสัญญา OpenAPI (Swagger) เข้าไปยัง เอกสาร Consumed REST Request ของคุณได้โดยตรงแล้ว! ระบบจะกรอกข้อมูลต่างๆ ให้อัตโนมัติตามที่ระบุไว้ในสัญญา OpenAPI ได้แก่:
- URL
- HTTP Method (GET, POST, PUT, DELETE เป็นต้น)
- พารามิเตอร์
- เฮดเดอร์
ประโยชน์สำคัญ:
- ประหยัดเวลา – ไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่า REST Request ด้วยมือทีละอัน
- ลดข้อผิดพลาด – ข้อมูลถูกดึงจากสเปค OpenAPI โดยตรง
- โฟกัสกับงานสำคัญ – พัฒนาแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้น โดยไม่เสียเวลาไปกับงานตั้งค่าซ้ำๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Documentation
Find available Business Events in the Mendix Connect Catalog
คุณสามารถใช้ Integration Pane ใน Studio Pro เพื่อตรวจหาธุรกิจอีเวนต์ (Business Events) ที่แอปอื่นๆ ในองค์กรของคุณได้ลงทะเบียนไว้ใน Mendix Connect Catalog เมื่อพบอีเวนต์ที่ต้องการแล้ว คุณสามารถ ลากและวาง จาก Integration Pane ลงในโปรเจกต์ของคุณเพื่อใช้งานได้ทันที

Configure the External Database Connector for Databricks
นอกเหนือจากการพัฒนาแพลตฟอร์ม Snowflake เราได้ช่วยให้ AI Data Cloud สามารถใช้งานกับ Mendix ได้ง่ายขึ้นโดยการสร้างแอปพลิเคชันบน Snowflake อย่างราบรื่น ขั้นตอนต่อไปที่เป็นธรรมชาติก็คือการปลดล็อกความสามารถเดียวกันนี้สำหรับ Data Intelligence Platform ของ Databricks
เราใช้แนวทางเดียวกันโดยอาศัย External Database Connector ซึ่งช่วยให้คุณสามารถใช้ JDBC driver ที่รองรับเพื่อเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลที่คุณเลือก ซึ่งในกรณีนี้คือ Databricks เพื่อให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น เราได้จัดทำ Docuementation เฉพาะที่จะแนะนำขั้นตอนการตั้งค่าให้คุณอย่างละเอียด

Working with metadata in Amazon S3 Connector
เมื่อทั้งแอปพลิเคชัน Mendix และระบบอื่นอัปโหลดไฟล์ไปยัง S3 คุณอาจต้องการแยกแยะว่าไฟล์ใดถูกอัปโหลดโดยระบบใด หรือคุณอาจต้องการจัดเก็บและใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ID ของผู้ใช้ ที่อัปโหลดไฟล์
สำหรับกรณีเหล่านี้ เราได้เพิ่มตัวเลือกในการ จัดเก็บข้อมูลเป็นเมตาดาต้า ไปยัง Amazon S3 objects โดยเฉพาะ คุณสามารถเพิ่ม metadata ไปยัง S3 object ได้โดยใช้ PutObject หรือ CopyObject operations และสามารถดึงข้อมูลเมตาดาต้านี้กลับมาได้โดยใช้ GetObject operation

Learning Experience
Training Finder updates
สรุป:
Mendix ได้ปรับปรุง Training Finder เพื่อให้ทั้ง Training Partners และผู้ใช้งานค้นหาหลักสูตรได้ง่ายขึ้น โดย Training Partners สามารถเผยแพร่หลักสูตรได้เร็วขึ้นด้วยกระบวนการที่เรียบง่ายขึ้น ส่วนผู้เรียนสามารถใช้ ตัวกรองขั้นสูง การจัดเรียง และการค้นหา เพื่อค้นหาหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การอัปเดตนี้ช่วยเชื่อมโยง หลักสูตรคุณภาพสูง กับผู้เรียนใน Mendix Community ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณต้องการพัฒนาทักษะส่วนตัวหรือหาหลักสูตรให้ทีมของคุณ Training Finder โฉมใหม่ จะช่วยให้คุณเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาใน Mendix ได้สะดวกยิ่งขึ้น

Content rating
สรุป:
ฟีเจอร์ Content Rating ใหม่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถให้คะแนนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Learning Paths ที่พวกเขาเรียนจบแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้สร้าง คะแนนรีวิวแบบเห็นได้ชัด ทำให้ชุมชน Mendix สามารถค้นหาเนื้อหาการเรียนรู้ที่มีคุณภาพสูงและตรงกับความต้องการได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังช่วยให้ทีมงาน Mendix ได้รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาเนื้อหาการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ทุกคนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด


Governance
Software Composition is Generally Available (GA)
เคยสงสัยไหมว่าคุณจะจัดการ คอมโพเนนต์ ต่างๆ (เช่น โมดูล, วิดเจ็ต, ไลบรารี Java, เวอร์ชัน Runtime และ NPMs) ในแอปพลิเคชันที่เติบโตขึ้นของคุณได้อย่างไร? หรือจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคอมโพเนนต์เหล่านี้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ปลอดภัยจากช่องโหว่ และสอดคล้องกับแนวทางด้านความปลอดภัยขององค์กรคุณ?
ขอแนะนำ Software Composition ที่ตอนนี้เปิดให้ใช้งานทั่วไป (GA) แล้ว!
Software Composition ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของ การพึ่งพาคอมโพเนนต์ ทั้งในระดับแอปพลิเคชัน (ผ่าน Mendix Portal) และระดับภาพรวมขององค์กร (ผ่าน Control Center )
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน บล็อกโพสต์สั้นๆ นี้
AI – Smart Apps
Prompting example in the GenAI Showcase App
ใน Mendix 10.19 มีการเพิ่มความสามารถในการ จัดการ Prompt ที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งและทดสอบ Prompt ได้แบบ เรียลไทม์ โดยไม่ต้องหยุดการทำงานของแอปพลิเคชัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของฟีเจอร์นี้ เราได้เพิ่มตัวอย่างใหม่ใน GenAI Showcase App ซึ่งแสดงให้เห็นวิธีการปรับแต่ง Prompt แบบไดนามิก รวมถึงการนำไปใช้ใน Product Description Generation
เครื่องมือจัดการ Prompt นี้ยังช่วยให้ นักพัฒนา Mendix, นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละโดเมน สามารถทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุง AI-generated responses ให้ตรงกับความต้องการขององค์กรได้ดียิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ Prompt Management เป็นส่วนหนึ่งของ ConversationalUI module ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก Mendix Marketplace ภายใน GenAI For Mendix Bundle
Amazon Bedrock model management
เวอร์ชันล่าสุดของ Amazon Bedrock Connector ช่วยให้ ผู้ดูแลระบบ สามารถจัดการโมเดลได้แบบ runtime ผ่าน UI ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณต้องการใช้ โมเดลที่ยังไม่พร้อมใช้งานในบางภูมิภาค แต่สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Cross-Region Inference
ฟีเจอร์นี้รองรับโมเดล AI ขั้นสูง เช่น
• DeepSeek R1
• Anthropic Claude 3.7 Sonnet
ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายผ่าน Amazon Bedrock Connector
Blogpost: bring your own model via Ollama
หากคุณต้องการรันโมเดล AI ของคุณเอง เรามีคำแนะนำให้! บล็อกโพสต์ล่าสุด “How to Run Open-Source LLMs Locally with the OpenAI Connector and Ollama” อธิบาย วิธีเชื่อมต่อ LLM ที่คุณรันเอง ทีละขั้นตอน โดยใช้ OpenAI Connector ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเพราะ API ของ LLM หลายตัวสามารถใช้งานร่วมกับ OpenAI ได้
Use OpenAI’s GPT-4.5
เวอร์ชันล่าสุดของ OpenAI Connector รองรับ GPT-4.5 (Preview version) โดยตรง นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบ ยังสามารถกำหนด Input Modality ของโมเดลใหม่ที่เพิ่มเข้ามา (เช่น Text หรือ Image) เพื่อช่วย กรองและเลือกโมเดลที่เหมาะสม สำหรับแอปพลิเคชันของคุณได้ง่ายขึ้น
Mendix on Azure
ข่าวดีสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการ Deploy บน Azure – Mendix on Azure พร้อมแล้ว!
ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้การ Deploy แอป Mendix ไปยัง Azure Subscription ส่วนตัว ของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยไม่ต้องจัดการกับความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ Mendix on Azure จะ ตั้งค่าโดยอัตโนมัติ ผ่าน Azure Managed Applications และทำให้ทุกอย่างพร้อมใช้งานภายใน 30 นาที
- ไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านคลาวด์ – ลดความยุ่งยากจากการตั้งค่าด้วยตนเอง
- ซื้อและตั้งค่าได้ง่าย – เป็น ISV Solution บน Azure Marketplace จึงสามารถติดตั้งและใช้งานได้สะดวก
- อัปเดตทุกไตรมาส – เพื่อให้มั่นใจว่าระบบของคุณทันสมัยอยู่เสมอ
- รองรับการใช้งานที่ปลอดภัย – เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการให้การ Deploy อยู่ภายใน Security Perimeter ของตนเอง
- เชื่อมต่อกับระบบเดิมได้ง่าย – รองรับการ Integrate กับ Legacy Systems
- ลดภาระในการจัดการคลาวด์ – ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสที่การพัฒนาแอปได้เต็มที่
เริ่มต้นใช้งาน Mendix on Azure ได้แล้ววันนี้! 🚀💙
Source: https://www.mendix.com/blog/mendix-release-10-21-ai-ai-ai-boosting-developer-productivity/