Back

Mendix Release 10.19 – A New View on Performance and Experience

หลังจากที่เราตื่นเต้นกับ 10.18 ที่เพิ่งผ่านไป ในเดือนนี้ได้ปล่อยความสามารถบางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามา: View entities มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ app มากขึ้น และเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับนักพัฒนา, รองรับการเชื่อมต่อไปยัง database อื่น ๆ, การทำงานร่วมกันของ Online และ Offline data สำหรับ mobile, เพิ่มศักยภาพเรื่องความปลอดภัย, เพิ่มศักยภาพด้าน AI หลาย ๆ ด้าน, ปรับปรุงเรื่องระบุตัวตนและการเข้าถึงต่าง ๆ และปรับปรุงในส่วนของ Company onboarding

Studio Pro

View Entities beta

รุ่นนี้เปิดให้ใช้งาน View Entities ในเวอร์ชัน public beta ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันของคุณ พร้อมกับทำให้การพัฒนาง่ายขึ้นเมื่อทำงานกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อน ไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างตารางข้อมูลจากหลายเอนทิตี สร้างกราฟจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่ถูกจัดกลุ่ม หรือเปิดเผย API ข้อมูลในรูปแบบที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ View Entities จะช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น

View Entities คือคิวรี OQL ที่มีชื่อกำหนดไว้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ในหลายกรณีที่ปัจจุบันใช้ Persistent Entities นั่นหมายความว่าคุณสามารถกำหนดคิวรีของคุณแล้วเชื่อมโยงไปยัง Data Grid ได้ และมันจะทำงานเหมือน Persistent Entity โดยรองรับการกรองข้อมูล (Filtering), การแบ่งหน้า (Pagination) และการเรียงลำดับ (Sorting) ได้อย่างสมบูรณ์

ลูกค้ากลุ่มแรกที่ได้ใช้งานรายงานว่าประสิทธิภาพของ Data Grid ที่ใช้หลายเอนทิตีที่เชื่อมโยงกันดีขึ้นถึง 10 เท่า ดังนั้น หากคุณกำลังพัฒนาแอปพลิเคชันที่ทำงานกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ควรพิจารณาใช้ View Entities เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

เพื่อช่วยให้คุณเขียนคิวรี OQL ได้ง่ายขึ้น เราได้เพิ่มปุ่ม Run Query ซึ่งช่วยให้คุณสามารถดูผลลัพธ์ของคิวรีกับข้อมูลในแอปพลิเคชันที่กำลังรันอยู่ได้ทันที นอกจากนี้ View Entity Editor ยังมีฟีเจอร์ Autocomplete เพื่อช่วยให้คุณเขียนคิวรีได้เร็วขึ้นอีกด้วย

View Entities ทำงานเหมือน Persistent Entities เมื่อใช้งานใน Data Grid หรือวิดเจ็ตอื่น ๆ โดยรองรับการเรียงลำดับ (Sorting), การแบ่งหน้า (Paging) และการกรองข้อมูล (Filtering) นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ View Entities เป็นเอนทิตีภายใน View Entities อื่นได้อีกด้วย สิ่งนี้ช่วยให้คุณสร้างแอปพลิเคชันที่ดูแลรักษาง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถนำคิวรีที่ใช้บ่อยกลับมาใช้ใหม่ได้ และสามารถเขียนคิวรีที่เรียบง่ายและเข้าใจได้ง่ายขึ้น

โปรดดู documentation ซึ่งมีคำแนะนำ (How-to) สำหรับกรณีการใช้งานที่หลากหลายที่ View Entities สามารถช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น วิธีสร้างกราฟด้วย View Entities, วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ Data Grid ด้วย View Entities, วิธีแยก API ออกจากข้อมูลด้วย View Entities และวิธีสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับหลายภาษาโดยใช้ View Entities

Database connector – ใช้ driver ตามที่คุณต้องการ

ตัวเชื่อมต่อฐานข้อมูลภายนอก (External Database Connector) ขณะนี้รองรับการใช้ไดรเวอร์ JBDC ที่เข้ากันได้กับฐานข้อมูลที่คุณต้องการเชื่อมต่อ ซึ่งช่วยเพิ่มทางเลือกในการเชื่อมต่อระบบได้อย่างมหาศาล คุณสามารถกำหนด Java JBDC Library ที่จำเป็นในการตั้งค่าของโมดูล และจากนั้นสร้างการเชื่อมต่อใหม่โดยใช้ไดรเวอร์ JBDC นี้ ในตัวอย่างด้านล่าง แสดงการใช้ตัวเชื่อมต่อนี้เพื่อเชื่อมต่อกับ IBM DB2

หากต้องการแสดงผลของ queries ในระหว่างที่กำลังเขียนอยู่นั้น คุณต้อง run app เพื่อให้ Java database library สามารถทำงาน query ดังกล่างของคุณได้

Mobile – การทำงานร่วมกันของ Offline และ Online เปิดให้ลองใช้ใน public beta

แอปพลิเคชันแบบ Offline-first กำลังเปลี่ยนโฉมการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย Low-Code ช่วยให้ลูกค้าของเราสร้างแอปมือถือที่มีความสามารถเหนือกว่าบนแพลตฟอร์ม Low-Code อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลตั๋วในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านซึ่งมีการเชื่อมต่อที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือการดำเนินงานบำรุงรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือ แอปแบบ Offline-first ของ Mendix มอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาแอปแบบ Offline-first นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าแอปที่ทำงานออนไลน์เพียงอย่างเดียว และในบางกรณีก็ไม่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ออฟไลน์เลย เราไม่สามารถขจัดความท้าทายทางเทคนิคเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่เราตัดสินใจทำให้เป็นตัวเลือกเสริมแทน

ใน Mendix 10.19 นักพัฒนาสามารถเลือกได้ว่าเอนทิตีใดควรพร้อมใช้งานแบบออฟไลน์ และเอนทิตีใดควรดึงข้อมูลโดยตรงจากเซิร์ฟเวอร์ของ Mendix สิ่งนี้ช่วยให้เริ่มต้นพัฒนาแอป Native Mobile หรือ PWA แบบออนไลน์เต็มรูปแบบ และค่อย ๆ เพิ่มฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานแบบออฟไลน์ตามความต้องการ

เมื่อคุณเปิดใช้งาน beta feature ใน Settings ภายใต้ New Features คุณสามารถใช้ “Online” synchronization ได้ เพื่อกำหนดว่า entities ไหนควรใช้งานแบบ online-only แม้เราจะรับขอเสนอแนะต่าง ๆ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ feature นี้ใน production ณ ตอนนี้ กรุณาดู documentation ในเรื่องของข้อจำกัดต่าง ๆ ก่อนที่จะเริ่มใช้งาน

เพิ่มความปลอดภัยให้กับ application ด้วย Strict mode

เราตื่นเต้นที่จะประกาศการเปิดให้ใช้งาน Strict Mode อย่างเป็นทางการหลังจากการเปิดตัว public beta ที่ประสบความสำเร็จใน Mendix 10.12 ขอบคุณข้อเสนอแนะที่ดีจากผู้ใช้ ฟีเจอร์เสริมความปลอดภัยที่ทรงพลังนี้จึงพร้อมให้ทุกคนใช้งานแล้ว

Strict Mode ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันของคุณ โดยการจำกัดการเข้าถึง API ข้อมูลที่ใช้ในการดึงหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลจากฟรอนต์เอนด์ ซึ่งหมายความว่า ข้อมูลที่สามารถดึงได้โดยผู้ใช้จะมีเพียงข้อมูลที่แสดงในหน้าเพจหรือใน Nanoflow เท่านั้น ข้อมูลอื่น ๆ จะถูกบล็อกอย่างปลอดภัย แม้กฎการเข้าถึงจะอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลนั้นก็ตาม

การเปิดใช้งาน Strict Mode ในการตั้งค่าความปลอดภัยของแอปพลิเคชันจะช่วยปกป้องข้อมูลของแอปพลิเคชันเมื่อไม่ได้แสดงในอินเตอร์เฟซผู้ใช้ การเพิ่มชั้นความปลอดภัยนี้ช่วยป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต แม้ผู้พัฒนาจะพลาดการกำหนดกฎการเข้าถึง ซึ่งทำให้แอปพลิเคชันของคุณปลอดภัยขึ้นโดยค่าเริ่มต้น Strict Mode ใช้ได้เฉพาะกับ React Client เท่านั้น

Data grid 2 – ปรับการโหลดข้อมูล

เรามีการปรับปรุงใหม่ใน Data Grid 2 ที่ช่วยปรับปรุงการนำทางผ่านชุดข้อมูลขนาดใหญ่ เมื่อใช้ฟีเจอร์การเลื่อนแบบเสมือน (Virtual Scrolling) หรือปุ่ม Load More คุณจะสามารถเลือกแสดงจำนวนแถวที่โหลดมาแล้ว พร้อมกับจำนวนแถวทั้งหมดได้ การเพิ่มฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลสำคัญเพื่อเข้าใจบริบทเมื่อทำงานกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่

AI

GenAI สำหรับ Mendix

เราได้รวม สามโมดูลหลัก เข้าไว้ใน GenAI for Mendix Bundle ทำให้การอัปเดตแอป Mendix ของคุณให้ทันสมัยกับ GenAI รุ่นล่าสุดเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น บันเดิลใหม่นี้ที่เผยแพร่บน Marketplace ประกอบด้วย:

  • ConversationalUI – อินเทอร์เฟซผู้ใช้สำหรับแชทที่ใช้ GenAI, ระบบจัดการ Prompt, และตัวติดตาม Token Consumption
  • GenAI Commons – แกนกลางที่ใช้ร่วมกันสำหรับโมดูล GenAI ทั้งหมด ซึ่งช่วยให้คุณสามารถโต้ตอบกับ Large Language Models (LLM) ใดก็ได้
  • Mendix Cloud GenAI Connector – ตัวเชื่อมต่อใหม่ล่าสุดสำหรับ Mendix Cloud GenAI (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง)

การอัปเดตนี้ยังมาพร้อมกับ โครงสร้างเครื่องมือ (Toolbox) ที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ประสบการณ์การพัฒนาดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยวิธีใหม่ในการจัดเก็บ Deployed Models คุณสามารถ สลับระหว่างผู้ให้บริการโมเดล เช่น Mendix Cloud GenAI, (Azure) OpenAI และ Amazon Bedrock ได้อย่างราบรื่นในขณะรันไทม์ สำหรับตัวอย่างการใช้งาน ดูได้ที่ GenAI Showcase App เวอร์ชันล่าสุด

มีทรัพยากรต่าง ๆ และตัวเชื่อมต่อสำหรับ Mendix Cloud GenAI

Mendix Cloud GenAI Connector ตัวใหม่ (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ GenAI for Mendix Bundle) ช่วยให้คุณสามารถใช้ Mendix Cloud GenAI Resource Packs ได้โดยตรงภายในแอป Mendix ของคุณ สำหรับกรณีการใช้งาน เช่น Text Generation, RAG (Retrieval-Augmented Generation), และ ReAct (Reasoning + Acting) ด้วย Mendix Cloud GenAI Resource Packages คุณสามารถเข้าถึงทรัพยากรการประมวลผลสำหรับ โมเดลสร้างข้อความ (Text Generation) และโมเดล Embedding รวมถึงการจัดเก็บฐานความรู้ด้วย Vector Databases ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อ Mendix ถ้าคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม

Prompt management

เราตื่นเต้นที่จะเปิดตัว ความสามารถใหม่ในการจัดการ Prompt ที่ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่ง Prompt ได้แบบเรียลไทม์ระหว่างการรันแอป ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของโมเดล โดยไม่ต้องหยุดระบบหรือขอความช่วยเหลือจากนักพัฒนา Mendix ฟีเจอร์นี้สามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับ ทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientists), ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เพื่อควบคุมและทดสอบ Prompt ที่ใช้ในแอปพลิเคชัน รวมถึงการจัดการ ประวัติเวอร์ชันของ Prompt ตลอดวงจรการพัฒนา

ความสามารถใหม่นี้รองรับโดยโมเดลการสร้างข้อความหลักทั้งหมดจาก Mendix Cloud GenAI, (Azure) OpenAI และ Amazon Bedrock

Prompt Management เป็นส่วนหนึ่งของ ConversationalUI Module ซึ่งมีให้ใช้งานบน Mendix Marketplace ภายใต้ GenAI for Mendix Bundle

RFP assistant starter app

แอปตัวอย่าง RFP Assistant Starter App เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการใช้ GenAI เพื่อจัดการงานที่เกิดซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำเสนอระบบ การจัดการความรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย GenAI

ตัวอย่างเช่น ในกระบวนการ RFP (Request for Proposal) ซึ่งเป็นแบบสอบถามที่ต้องตอบคำถามจำนวนมาก โดยปกติแล้ว แบบสอบถาม RFP จะถูกส่งไปยังผู้ให้บริการเพื่อประเมินคุณสมบัติของพวกเขาสำหรับโครงการหนึ่ง ๆ แม้ว่าลูกค้าแต่ละรายจะตั้งคำถามแตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้วเนื้อหามักจะคล้ายกัน

RFP Assistant Starter App จึงเป็น ทางเลือกอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดเวลา แทนการค้นหาคำตอบที่คล้ายกันด้วยตนเองทุกครั้ง และช่วยลดการพึ่งพาการจัดการความรู้จากแต่ละทีม โดยใช้ความสามารถของ GenAI ในการประมวลผลและแนะนำคำตอบที่เหมาะสม

ตอนนี้เรามี Maia chat ใน Mendix Portal แล้ว

เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า Maia Chat ตอนนี้สามารถใช้งานได้ใน Mendix Portal ซึ่งช่วยให้ฟีเจอร์ที่ทรงพลังนี้เข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้างมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Maia Chat สามารถใช้งานได้เฉพาะใน Studio Pro แต่ตอนนี้รองรับผู้ใช้ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม โดยให้คำตอบที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือสำหรับคำถามที่เกี่ยวข้องกับ Mendix

การผสานรวมที่ไร้รอยต่อใน Portal ทำให้ Maia Chat เป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าในการทำงานต่าง ๆ เช่น การจัดการโครงการ และ การปรับใช้แอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงความรู้เฉพาะทางได้โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเครื่องมือหรือเอกสาร

Identity and Access Management

SAML module – easy SSO configuration

Mendix ไม่เพียงช่วยให้คุณพัฒนา ซอฟต์แวร์ได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณ ปรับใช้แอปได้เร็วขึ้นและในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ด้วย ใน SAML Module เวอร์ชันล่าสุด คุณสามารถกำหนดค่า SSO (Single Sign-On) ได้ตั้งแต่ ขั้นตอนออกแบบ (Design-time) และ/หรือ ขั้นตอนปรับใช้แอป (Deploy-time) สิ่งนี้ช่วย ลดความจำเป็นในการใช้บัญชี MxAdmin เพื่อล็อกอินเข้าแอป SAML หลังจากการปรับใช้ และช่วยลดความยุ่งยากในการกำหนดค่า SSO ด้วยตนเอง ซึ่งบางครั้งอาจมีความซับซ้อน

คุณสามารถสร้าง Microflow สำหรับกำหนดค่า SAML และแชร์ให้กับทุกแอป SAML ในพอร์ตโฟลิโอของคุณ ซึ่งช่วยให้การตั้งค่า SAML เป็นไปโดยอัตโนมัติและสามารถทำซ้ำได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใช้งานแบบมาตรฐาน (Vanilla Use Cases) หรือการตั้งค่าขั้นสูงก็ตาม ทำให้ ลดต้นทุนการกำหนดค่า และช่วยให้ลูกค้าที่กำลังขยายพอร์ตโฟลิโอของแอป SAML สามารถใช้งานได้เร็วขึ้น (Shorter Time-to-Value)

💡 แนวคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเทศบาลเมือง Rotterdam ซึ่งพัฒนาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะของตนเองเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ DEVOPS สำหรับแอป SAML

🚀 ฟีเจอร์ใหม่ใน SAML Module

1️⃣ สร้างผู้ใช้ในแอปอัตโนมัติด้วย User Commons Module

  • คล้ายกับ User Provisioning ใน OIDC SSO Module
  • สร้างผู้ใช้ใหม่โดยอัตโนมัติ พร้อมกำหนดประเภทเป็น “External” หรือ “Internal” ตาม Identity Provider (IdP) ที่ผู้ใช้มาจาก

2️⃣ รองรับการจัดการ Java Dependencies

  • ช่วยให้อัปเกรดเวอร์ชันได้ง่ายขึ้น
  • ลดปัญหาความเข้ากันได้ของไลบรารีต่าง ๆ

🎯 ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้การปรับใช้ SAML SSO ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และทำให้การบริหารจัดการระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

OIDC SSO module – default user role

OIDC SSO Module ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถมอบหมายกระบวนการล็อกอินไปยัง Identity Provider (IdP) ได้ แต่ยังช่วยให้ IdP กลางของคุณสามารถทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุญาต (Authorization) ได้ด้วย ใน เวอร์ชันใหม่ของ OIDC SSO Module คุณสามารถกำหนด Default User Role สำหรับ ผู้ใช้ทุกคน ได้ โดย บทบาทเริ่มต้นนี้จะถูกกำหนดให้ผู้ใช้เพิ่มเติมจากบทบาทที่ได้รับจาก IdP

🔹 ข้อดีของฟีเจอร์นี้:

  • ลดความซับซ้อนในการตั้งค่ากลุ่มผู้ใช้ (User Group Configuration) ใน IdP
  • ปรับปรุงการจัดการสิทธิ์ในแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น
  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการกำหนดบทบาทของผู้ใช้

SCIM module

หากคุณยังไม่ได้ใช้ SCIM Module เพื่อให้ Identity Provider (IdP) จัดการ การเพิ่ม (On-board) และการนำออก (Off-board) ผู้ใช้จากแอปของคุณโดยอัตโนมัติ ขอแนะนำให้ลองใช้ดู! ใน เวอร์ชันล่าสุดของ SCIM Module เราได้เพิ่มความสามารถให้คุณสามารถ ไม่เพียงแค่ปิดการใช้งาน (Deactivate) ผู้ใช้ในแอปเท่านั้น แต่ยังสามารถลบข้อมูลบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องออกได้ด้วย

🔹 ฟีเจอร์ใหม่:

  • การกำหนดค่า SCIM สามารถทำได้ในขั้นตอน Deploy-Time
  • ไม่จำเป็นต้องใช้บัญชี MxAdmin เพื่อล็อกอินเข้าไปตั้งค่าอีกต่อไป
  • เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย ในการบริหารจัดการบัญชีผู้ใช้

SSO to the Mendix platform – keypair-based security

หากคุณได้ตั้งค่า SSO ระหว่าง Identity Provider (IdP) ของคุณกับ Mendix Platform แล้ว ทีม IT กลางของคุณจะสามารถควบคุมกระบวนการล็อกอินของนักพัฒนาได้ ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่า ผู้ที่ออกจากองค์กร (“Leavers”) จะไม่สามารถล็อกอินเข้า Mendix Platform หรือ Studio Pro ได้

เมื่อ Mendix Platform ทำงานร่วมกับ IdP ระบบจะใช้ Basic Authentication โดยค่าเริ่มต้น แต่ตอนนี้คุณสามารถตั้งค่าให้ Mendix Platform ทำการยืนยันตัวตน (Authenticate) โดยใช้ Key-Pair ได้แล้ว

🔹 ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยสูงขึ้น

  • ลดความเสี่ยงจากการใช้ Basic Authentication
  • รองรับการตรวจสอบสิทธิ์แบบ Key-Pair Authentication
  • เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง

📌 หากนโยบายด้านความปลอดภัยขององค์กรคุณต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ และคุณมี Premium Platform License โปรดติดต่อ CSM ของคุณเพื่อเริ่มกระบวนการเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้

Company Onboarding

รู้หรือไม่? ตอนนี้คุณสามารถตั้งค่า ประสบการณ์การเริ่มต้นใช้งาน (Onboarding Experience) หรือฐานความรู้ (Knowledge Base) ของ Mendix สำหรับองค์กรของคุณเองได้แล้ว!

หลายคนอาจยังไม่ทราบเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราปรับปรุงและเปิดตัวฟังก์ชันนี้อีกครั้ง 🎉 ผู้ดูแลระบบขององค์กร (Company Admins) สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Control Center > Company Onboarding

📌 ฟีเจอร์นี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง? ช่วยให้พนักงานที่ใช้ Mendix ในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่ต้องมีได้ง่าย เช่น

  • แนวทางปฏิบัติ (Guidelines)
  • คู่มือของบริษัท (Company Manuals)
  • วิดีโอแนะนำการใช้งาน
  • แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices)
  • กฎระเบียบที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม

ไม่ว่าคุณจะต้องการแค่ ลิสต์แนวทางการใช้งานและลิงก์ที่เป็นประโยชน์ หรือสร้าง ฐานความรู้ Mendix สำหรับทั้งองค์กร ก็สามารถทำได้ทั้งหมด

🏢 สำคัญอย่างไรสำหรับองค์กรที่กำลังเติบโต?

เมื่อองค์กรขยายตัว การทำให้ทุกคนปฏิบัติตามแนวทางเดียวกันและมีวิธีทำงานที่เป็นระบบ เป็นสิ่งสำคัญ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ ผู้ใช้ทุกคนที่มีบัญชี Mendix สามารถเข้าถึงหน้า Onboarding ได้ง่าย ๆ ผ่าน Mendix Home

🚀 ตั้งค่าง่าย ไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิค!

  • ปรับแต่งได้อย่างอิสระ ด้วย ชุดของบล็อกสำเร็จรูป ที่คุณสามารถเลือกและแก้ไขได้ตามต้องการ
  • ดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ก่อนเผยแพร่
  • ใช้เวลาตั้งค่าน้อย แต่ให้ประโยชน์สูงสุด

เริ่มต้นสร้าง Mendix Onboarding สำหรับองค์กรของคุณได้เลยวันนี้! 😊

เมื่อคุณตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงคลิก “Publish” และ หน้าของคุณจะพร้อมใช้งานสำหรับทุกคนในองค์กรที่ล็อกอินเข้าสู่แพลตฟอร์ม หน้า Onboarding นี้จะแสดงอยู่ใน Mendix Home ของผู้ใช้ทุกคน เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย

หมายเหตุ: สำหรับผู้ใช้ Mendix รุ่นเก่า บางราย ส่วน “Get Started with Mendix” อาจถูกซ่อนโดยค่าเริ่มต้น หากคุณไม่เห็นส่วนนี้ สามารถเปิดใช้งานได้ที่ Mendix Home Settings (ไอคอนรูป เฟือง ที่อยู่ข้างปุ่ม Create App)

Source: Mendix Blog